“อยู่กับปัจจุบัน” ประโยคที่เราได้ยินบ่อยๆ
ประโยคที่ไม่ซับซ้อน และ แปลตรงตัวว่า อยู่กับสิ่งที่เป็น ไม่ไปคิดวนกับอดีต และ กังวลกับอนาคต
มีสติรู้ทุกชั่วขณะ สุขกาย สบายจิต ชีวิตมีสุข
“The secret of health for both mind and body is not to mourn for the past, nor to worry about the future, but to live the present moment wisely and earnestly.”
Buddha
หญิงเป็นคนนึงที่ ฝึกการอยู่กับปัจจุบัน, มีสติ, มีสมาธิทุกวินาที มาหลายปี แล้วก็มีหลุดอยู่อย่างสม่ำเสมอ 😂😂
คือ บางทีรู้ตัวก็ดึงตัวเองกลับมาได้
แล้วก็มีหลายๆครั้งที่ปล่อยอารมณ์นานจนกู่ไม่กลับ กังวลไปกับอนาคต ย้อนยึดติดกับอดีตที่ผ่านมา
สร้างเรื่องราวที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง ขึ้นมาในหัว จนเหมือนจริงกว่าสิ่งที่เป็นอยู่ตรงหน้า
หญิงก็คอยบอกตัวเองแหละ
เอาน่า! อย่างน้อยก็รู้ตัว รู้ตัวดีกว่าไม่รู้
ก็เรียนรู้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เอาเป็นบทเรียน แล้วคราวหน้าเอาใหม่ มีสติให้ไวกว่านี้
ฝึกไปเรื่อยๆ ‘step-by-step’
ฝึกกับทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น, นั่งสมาธิ, เขียนJournal สะท้อนอารมณ์ในแต่ละเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ยิ่งฝึกยิ่งเห็น เห็นแล้วตระหนักรู้ แต่จะทำยังไงให้เรานำจิตมาอยู่กับปัจจุบันได้อย่างแท้จริง
เราจะเอาใครเป็นแบบอย่าง?
คนที่ใกล้ตัว…..
ใครที่จะมาเป็นแรงบันดาลใจให้กับเราได้?
คนที่มีความอยู่กับปัจจุบันในตัวตน…..
💭💭💭💭💭💭 💭💭💭💭💭💭
เด็กๆ เนี่ยแหละคะ กูรูของการอยู่กับปัจจุบัน 👶🏻👧🏻🧒🏻👦🏻
ลองนึกดู เด็กๆ ก็มีอารมณ์เหมือนกับเราแหละ ดีใจ, เสียใจ, พอใจ, ไม่พอใจ, หงุดหงิด, รำคาญ, ไม่ได้ดั่งใจ
แต่เขาไม่ได้เอา อารมณ์มาเป็นเรื่องใหญ่
เขาไม่ได้คิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาเมื่อวานนี้
เขาไม่ได้ใส่ใจกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
เขาจดจ่ออยู่กับสิ่งที่เค้าทำ ณ ขณะปัจจุบัน
ถ้าตอนนี้เค้าคือ Ironman
เค้าก็คือ Ironman ที่กำลังต่อสู้พิทักษ์โลก และ ไม่มีอะไรในโลกที่สำคัญไปมากกว่านี้แล้ว
ถ้าเค้ากำลังโกรธหรือหงุดหงิดกับอะไรบางอย่าง
ต่อเลโก้ไม่ได้ หาส่วนประกอบไม่เจอ
เค้าก็อาจจะร้องไห้หรืออารมณ์เสียอยู่กับมันสักพัก จัดการกับอารมณ์ของตัวเอง
ไม่นานก็กลับมาเป็นปกติ หัวเราะมีความสุขอีกครั้ง เสมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เผลอๆอาจจะลืมเหตุการณ์ที่ทำให้เค้าหงุดหงิดไปอย่างสิ้นเชิง
แล้วเราจะเป็นแบบนั้นได้ยังไง
ในเมื่อมันก็ห้ามไม่ได้ที่ จากประสบการณ์มี่ผ่านมา เรื่องราวในอดีตมันจะโผล่ขึ้นมา จนทำให้กังวลเลยไปถึงอนาคต
The power of “PAUSE” คือ คำตอบ
“หยุด” สงบทุกสิ่ง
การหยุด ทำให้เราได้ถอยกลับมาอยู่ ปัจจุบัน
เปิดพื้นที่ในการรับฟังและสังเกต
ปราศจากคำพูดและการกระทำ
ชั่ววินาทีของการหยุดชั่วคราวอย่างมีสติ เปิดโอกาสให้เราได้ย้อนกลับมา มองดูความรู้สึกภายใน รู้สึกถึงความรู้สึกจริงๆ ณ ขณะนั้น และ ถามตัวเองว่า……
ปฏิกิริยานี้มาจากไหน?
ความคิดนี้มาได้ยังไง?
อะไรทำให้เกิดความรู้สึกแบบนี้?
มาจากประสบการณ์ในอดีต?
จากความกลัว?
จากความกังวล?
จากความต้องการของเรา? หรือ …..
จากความคาดหวังที่ไม่ได้เป็นไปตามแบบฉบับที่เราต้องการ?
การหยุดชั่วขณะ เป็นเหมือนการหยุดวงจรไฟฟ้า ปิดไฟไว้ก่อน แล้วย้อนกลับมาสัมผัสความรู้สึกภายในจริงๆของเรา
หญิงคว้าลูกชายของหญิงทั้ง2คน มาเป็นคุณครูในเรื่องการอยู่กับปัจจุบัน
เพราะ มนุษย์แม่ ไม่ว่าลูกจะอายุเท่าไหร่ มันท้าทายเหลือเกินที่จะไม่ตัดสินลูกจากเรื่องราวในอดีต และ มัวแต่ไปกังวลกับอนาคตที่ยังไม่เกิดขึ้น
แต่เรื่องราวที่สร้างขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นความกลัวจากประสบการณ์ในอดีต หรือ ความกังวลกับอนาคต
มันเป็นเรื่องราว ของเรา หรือ ของลูก กันแน่? 💭💭
มีลูกเป็นโค้ช อยู่กับปัจจุบัน
ทุกคำพูดที่เขาพูดออกมา หยุดความคิด และ ฟังอย่างตั้งใจ
เงียบทั้งภายในและภายนอก
“PAUSE” อย่างมีสติ
หญิงรู้สึกเลยว่า ที่ผ่านมา ตอนที่ลูกคุยกับเรา มีน้อยมากที่เราอยู่ตรงนั้นกับลูกจริงๆ
เพราะ เรามัวแต่คอยเวลาที่เราจะพูดกลับ
เพราะเรามัวแต่คอยจะให้คำแนะนำด้วยความเป็นห่วง
ลูกเล่าเรื่องที่เล่นกับเพื่อนที่โรงเรียนอย่างมีความสุข
เราก็คอยแต่จะบอกให้เล่นระวัง อย่าทำอะไรผาดโผน
อย่าโน้น อย่านี่ อย่านั่น
อาจจะเป็นเพราะเราเคยหัวฟาด อาจจะเป็นเพราะเราเคยโดนดุ อาจจะเป็นเพราะเราเคยโดนสั่งสอนมา
ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลอะไรก็ตาม ทั้งหมดมันคือเรื่องราวของเราทั้งนั้น
ลูกรู้สึกไม่ดีที่คะแนนสอบออกมาไม่ดีตามที่ “เขา” คาดหวัง
เราก็มัวแต่จะพูด คอยเตือน ให้ตั้งใจเรียน ให้อ่านหนังสือ
บอกทุกวิธีที่เราอาจจะเคยทำมา ด้วยความหวังดี
แต่เราเคยนั่งอยู่กับความรู้สึกของเขามั้ย เราได้ฟังนิ่งๆ ให้เขาได้สัมผัสความเข้าอกเข้าใจที่เรามีต่อเขาจริงๆรึเปล่า?
เราได้ฟังเขาระบายมั้ยว่า เขาใช้เวลาทำโจทย์ที่ยากก่อนเพราะกลัวลืมสิ่งที่ตั้งใจท่องมา จนทำโจทย์ที่เขาเข้าใจและรู้คำตอบแต่ทำไม่ทัน
หากเราได้ฟัง เราจะมีคำแนะนำที่ต่างจากเดิมมั้ย?
นานแค่ไหนแล้วนะ….. ที่เราอยู่กับปัจจุบันกับลูกอย่างแท้จริง
นานแค่ไหนแล้วนะ….. ที่เราให้เกียรติคนที่อยู่ตรงหน้าและฟังอย่างตั้งใจ
“PAUSE” เปิดโอกาสให้เราถอยกลับมาที่ปัจจุบัน
ดึงความเงียบทั้งภายใน และ ภายนอก
เฝ้ามองความคิด
สังเกตความรู้สึก
โยกจากการอยากพูด มาเป็น การตั้งใจฟัง
ได้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่าเกินคำบรรยาย
หญิงฝึก อยู่กับปัจจุบันกับลูก
ตัดวงจรความคิด และ การตัดสิน
มองสิ่งที่ “เป็น” ก่อน การกระทำและคำพูดใดๆ
หญิงได้มุมมองที่เปลี่ยนไป
ได้ความสดใสและร่าเริง
ได้เห็นตัวตนที่แท้จริงของลูก
เชื่อมต่อความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น ด้วยความเชื่อมั่นและเชื่อใจแบบไม่มีเงื่อนไข
และ ลูกไม่ได้ต้องการอะไรไปมากกว่า…..
การถูกเห็น และ การถูกยอมรับในตัวตนของเขาอย่างแท้จริง
“To be seen, to be validated, to be accepted unconditionally”
แล้ว หญิงว่า เราทุกคนก็คงต้องการความรู้สึกนี้เหมือนกัน
PRESENCE = SILENCE
อยู่กับปัจจุบัน ด้วย การหยุดชั่วขณะ
-PAUSE-
ความสุขที่แท้จริง โอบรับความเงียบสงบทั้งภายในและภายนอก