หญิงอ่านหนังสือ “Educated” จบมาสักพักแล้ว แต่ยังมีความประทับใจอยู่มากมาย
หญิงประทับใจในความคิดและความจริงใจ ของ Tara Westover ผู้เขียน ที่ได้เขียนเล่าเรื่องราวของตัวเองได้อย่างสวยงาม แบ่งปันการเดินทางของเธอ ตั้งแต่ต้นจนจบ มีอะไรให้ได้เรียนรู้และสะท้อนเรื่องราวบางอย่างของตัวเราเอง
แม้ว่าเรื่องราวของ Tara จะดูหนักหนาสาหัสเอาการ แต่ Tara ก็ปลอกเปลือกตัวเองไปทีละเปราะ เหมือนหัวหอมที่มีหลายชั้น ปอกไปน้ำตาไหลไป จนเป็นเปลือกในที่นุ่มนวล
อ่านแล้ว สะท้อนให้เห็นว่า ทุกอย่างมันอยู่ที่เรา ไม่ใช่ว่า ใครบอกเรา ใครสอนเรา ใครเลี้ยงดูเรา หรือ เราถูกเลี้ยงดูมายังไง เราสามารถเลือกทางเดินของเราได้ เลือกที่จะคิด เลือกที่จะเชื่อ เลือกที่จะทำ เลือกที่จะเรียนรู้ แล้วปรับเปลี่ยนตามเส้นทางเดินของเรา
มันก็เหมือน เราหยิบเก็บหินไปทางตามเส้นทางเดินนั้น ถ้ามันหนักไป เลือกที่จะทิ้งหินบางก้อนระหว่างเส้นทาง เหนื่อยก็นั่งพัก พักให้หายเหนื่อยแล้วเดินต่อ ในระหว่างทางเราอาจจะสับสน ว้าวุ่นใจ อาจจะต้องเลือกว่าจะ ตรงไป จะเลี้ยวซ้าย จะเลี้ยวขวา หรือ แม้กระทั่งหันหลังกลับ แต่ไม่ว่าเราจะเลือกทางไหน สุดท้ายมันก็เป็นเส้นทางเดินของเราอยู่ดี
หญิงชอบตอนนึงที่ Dr. Paul Kerry พูดกับ Tara ในงานเลี้ยงอาหารค่ำ คืนสุดท้ายที่เคมบริดจ์ งานเลี้ยงอาหารค่ำถูกจัดที่ห้องโถงใหญ่อย่างสวยงามและอลังการ โต๊ะอาหารถูกจัดอย่างละเอียดละออ
ในสายตาของ Tara ทุกคนในงานเลี้ยงแต่งตัวอย่างโก้หรูและสง่างาม
พอจานของหวานเสริฟ Tara เดินเลี่ยงออกมาข้างนอก เพราะคิดว่าตัวเองไม่เหมาะสมกับที่ที่นั้น ที่ที่มีแต่ความสวยงามและความประณีต
Dr. Kerry ศาสตราจารย์ที่เห็นความสามารถและศักยภาพในตัวTara เห็น Taraเดินออกไปข้างนอก จึงเดินตามออกไปพูดคุยกับ Tara และ มีอยู่ตอนนึง Dr. Kerry พูดกับ Tara ว่า ….
“You are not fool’s gold, shining only under a particular light. Whomever you become, whatever you make yourself into, that is who you always were. It was always in you. Not in Cambridge. In you. You are gold. And returning to BYU, or even to that mountain you came from, will not change who you are. It may change how others see you, it may even change how you see yourself – even gold appears dull in some lighting – but that is the illusion. And it always was.” – Dr. Paul Kerry (From Tara Westover’s memoir, Educated)
ศักยภาพของเรามีอยู่ในตัวเราเนี่ยะแหละ แต่บางทีมันอาจจะถูกปกคลุม ฝังลึก ด้วยความเชื่อบางอย่าง ตามเส้นทางเดินของเราตั้งแต่เล็กจนโต ที่ทำให้เราคิดว่า เราไม่ดีพอ เราไม่เก่ง เราไม่มีความสามารถ เราไม่คู่ควร ข้อจำกัดทางความเชื่อ ที่เราอาจจะตีความด้วยความรู้สึก นึกคิด ของเราในช่วงเวลานั้น
อาจจะมาจากการบอกกล่าว การถูกดุว่า ตักเตือนด้วยความเป็นห่วง อาจจะมาจากโดนแกล้งด้วยความเอ็นดู อาจจะมาจากการโดนล้อด้วยความเดียงสาและรู้เท่าไม่ถึงการณ์ อาจจะมาจากการถูกตัดสินจากคนอื่นในมุมมองของเค้า อาจจะมาจากความผิดพลาดของเราในอดีตที่เราตัดสินความสามารถของตัวเอง
ไม่ว่าวันนี้ เราจะโทษตัวเอง โทษคนอื่น หรือ โทษเหตุการณ์ต่างๆก็ตาม สุดท้ายแล้ว มันก็กลับมาที่เราเลือกคิด ว่า เราจะไขว่ขว้าเหตุการณ์ต่างๆ เหล่านั้นเป็นโอกาส ท้าทาย ในการเรียนรู้ ปรับเปลี่ยน และเติบโต หรือ รู้สึกแย่ จมปรัก หมกมุ่น กดทับศักยภาพที่ไม่มีขีดจำกัดในตัวเรา คนที่รู้ดีที่สุดคือตัวเราเอง
“Whether you think you can or think you can’t. You’re probably right.”
Henry Ford
Tara เองก็ต่อสู้กับตัวเอง และ คำพูดของคนอื่น บางครั้งเค้าก็มีความสงสัยในความสามารถของตัวเอง ในบางจุดเค้าก็เหนื่อย และ กลับไปใช้วิถีชีวิตแบบเดิมๆ เพราะมันง่ายกว่าการที่จะมาการก้าวข้าม ฝ่าฟันความยากลำบากทั้งกายและจิตใจของตัวเอง และคำตัดสินของคนอื่น แต่แล้วเค้าก็ลุกขึ้นมาใหม่ แล้วก็ล้มอีกครั้ง และลุกอีกครั้ง อนทน พยายาม ฝ่าฟัน จนกระทั่งเค้าเห็นคุณค่าของตัวเอง และ ยืนอย่างสง่างามในวันนี้
วันนี้ Tara ก็ยังคงเป็น Tara คนเดิมที่เติบโต ในบ้านไร่บนเขาจากIdaho ไม่เคยได้เรียนหนังสือจนกระทั่งอายุ 17ปี ตามเหตุผลและความเชื่อของคุณพ่อของเค้า แต่แล้ว Tara เลือกที่จะเดินเบี่ยงออกมา จนเจอตัวตนที่แท้จริง มีความเชื่อมั่นในตัวเองและเห็นคุณค่าของตัวเอง
เราทุกคนเคยทำผิด เราทุกคนเคยทำพลาด เพราะมันเป็นส่วนหนึ่งให้เราเรียนรู้ ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง และเติบโต
สมัยเด็กๆ ตอนเราฝึกเดิน เราลุก แล้วเราก็ล้ม แล้วเราก็ลุกขึ้นใหม่ แล้วเราก็ล้มอีก แล้วเราก็ร้องไห้ แล้วเราก็หัวเราะ แล้วเราก็ไม่หยุดที่จะพยายามใหม่ ล้มแล้วลุก เรียนรู้ที่จะหาสมดุล จนวันนี้เราเดินได้อย่างคล่องแคล่ว โดยที่ไม่ต้องคิดถึงวิธีการเดินด้วยซ้ำ
ถึงแม้ว่า เราจะเคยทำผิดพลาด แต่ก็ต้องไม่ลืมว่า มันก็มีหลายอย่างในชีวิตที่เราก็ทำถูกเหมือนกัน
ค้นหาคุณค่าในตัวเองให้เจอ เชื่อมั่นในตัวเอง โลดแล่น เพลิดเพลินไปในเส้นทางเดินชีวิตที่สวยงามของเราอย่างสง่างาม ความสุขนั้นอยู่ใกล้ ในใจของเราเอง
หายใจเข้าลึกๆ แตะไปที่อกข้างซ้าย ดูแลหัวใจตัวเองดีดี รักตัวเองให้มากมาก ตบไหล่ตัวเองเบาๆ ให้อภัยตัวเองเมื่อทำผิดพลาด ยิ้มรับเฉลิมฉลองกับทุกความสำเร็จที่ได้มา
ขอให้ทุกคนมีความสุขกับทุกช่วงชีวิตคะ ❤️❤️
“Don’t ever let someone tell you that you can’t do something. Not even me. You got a dream, you gotta protect it. When people can’t do something themselves, they’re gonna tell you that you can’t do it. You want something, go get it. Period.”
Chris Gardner, (Will Smith – The Pursuit of Happyness, Film)